กองทุนรวม คืออะไร บอกข้อดีสำหรับมือใหม่ที่อยากลงทุน สำหรับใครที่สนใจการลงทุนแบบกองทุนรวม แต่ก็ยังไม่เข้าใจความหมายกองทุนรวมมากนัก ซึ่ง กองทุนรวม (Mutual Fund) คือ การระดมเงินลงทุนจากคนจำนวนมากและนำไปจดทะเบียนให้มีฐานะเป็นนิติบุคคล เพื่อตั้งเป็น กองทุนขึ้นมา โดยเงินที่ได้รับนั้นจะมี “ผู้จัดการกองทุน” ที่เป็นมืออาชีพ นำเงินไปลงทุนในสินทรัพย์ต่าง ๆ ตามนโยบายของแต่ละกองทุน ให้ได้รับผลตอบแทนที่งอกเงย แล้วนำมาเฉลี่ยคืนให้กับผู้ลงทุนแต่ละรายตามสัดส่วนที่ลงทุน เรียกได้ว่าเป็นช่องทางสำหรับนักลงทุนมือใหม่ที่มีทุนน้อยให้มีรายได้เสริมดี ๆ กัน ซึ่ง khaohotdara จะพาไปดูข้อดีของการลงทุนกองทุนรวมกันบ้างว่ามีอะไรบ้าง และประเภทของกองทุนรวมกัน
กองทุนรวม คืออะไร บอกข้อดีสำหรับมือใหม่ที่อยากลงทุน
ข้อดีของ กองทุนรวม
1. มีมืออาชีพคอยดูแล
เรียกได้ว่ามือใหม่คนที่ไหนอยากจะลองเข้าวงการการเงิน แต่ยังไม่มีความรู้หรือข้อมูลมากนักการลงทุนที่กองทุนรวมก็เป็นทางเลือกแรกที่สามารถทำให้เรามีรายได้ดี จาก มืออาชีพที่คอยดูแล เพราะแต่ละกองทุนจะถูกจัดตั้งโดยบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เรียกย่อๆ ว่า บลจ. มักมาจากธนาคารหรือสถาบันการเงินชั้นนำของประเทศ องค์กรเหล่านี้ก็จะคัดผู้จัดการกองทุนชั้นดีมาคอยดูแล เพิ่มความมั่นใจให้กับผู้ซื้อ และที่ดีไปกว่านั้น ทุก บลจ. จะอยู่ภายใต้การกำกับดูแลโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งก็จะออกกฎเกณฑ์มาควบคุมเพื่อความโปร่งใส มีการเปิดเผยมูลค่าทรัพย์สินสุทธิออกมาชัดเจน ใครที่อยากจะลองลงทุนแต่กลัวเรื่องการโกง บอกเลยว่าไม่ใช่ปัญหาในกองทุนรวม เพราะเขาเข้มงวด และสามารถตรวจสอบได้
2. เลือกลงทุนได้ตามความเสี่ยงและนโยบายการลงทุน
ใครที่อยากลองลงทุนอะไรใหม่ ๆ และอยากลงทุนอย่างหลากหลาย กองทุนรวมก็สามารถตอบโจทยืข้อนี้ของเราได้เช่นเดียวกัน เพราะกองทุนรวมจะมี นโยบายลงทุนที่หลากหลาย ทั้งในต่างประเทศ ทั้งลงทุนในเงินฝาก หรือแม้แต่ลงทุนในทรัพย์สิน เช่น ทองคำ น้ำมัน ช่วยให้เข้าถึงการลงทุนในสินทรัพย์ได้หลากหลาย นอกจากนี้ แต่ละกองทุนก็จะมีสภาพคล่องที่ต่างกันไป บ้างก็ถอนได้เลยภายในวันเวลาทำการ บ้างก็ต้องถือไว้ในระยะเวลาที่กำหนด เรียกได้ว่ามีความหลากหลายมาก ๆ ซึ่งใครที่ยอมรับความเสี่ยงได้นั้น ก็สามารถลงทุนได้อย่างสบาย และสามารถเลือกได้ตามความสนใจเลย
3. เริ่มต้นได้ด้วยแค่เงินหลักร้อย
สำหรับมือใหม่คนไหนที่มีอยากจะลองลงทุนแต่มีงบน้อย หรือมีความกังวลในการลงทุนแล้วอยากจะลองลงทุนแบบงบน้อยก่อนนั้น กองทุนรวมก็สามารถช่วยทำให้ฝันของหลาย ๆ คนเป็นจริงได้ เพราะเราสามารถลงทุนได้ตามความสะดวกของเรา ซึ่งจำนวนเงินลงทุนนั้นก็ขึ้นอยุ่กับเงื่อนไขของแต่ละบริษัท ซึ่งอาจจะเริ่มที่ 500 – 1,000 บาท หรือไม่มีขั้นต่ำเลยก็มี และยังสามารถลงทุนแบบ DCA คือกำหนดจำนวนเงินและระยะเวลาที่ต้องการลงทุนตามต้องการได้อีกด้วย ใครที่อยากลองลงทุนอะไรสักอย่างดู กองทุนรวม ถือเป็นตัวเลือกแรกที่ต้องลองเข้ามา
4. สิทธิประโยชน์ทางภาษี
นอกจากการลุงทุนที่กองทุนรวมนั้นจะได้กำไรกลับมาแล้ว ก็ยังได้ สิทธิประโยชน์ทางภาษี อีกด้วย ถือเป็นเหตุผลยอดนิยมของการลงทุนในกองทุนรวมที่ใครหลาย ๆ คนต่างก็ต้องชื่นชอบ เพราะบางตัวสามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้ เช่น RMF ที่ลดหย่อนได้ 30% ของเงินได้ ไม่เกิน 500,000 บาท หรือ SSF ที่ลดหย่อนได้ 30% ของเงินได้ ไม่เกิน 200,000 บาท นอกจากจะได้ผลตอบแทนที่คุ้มค่าแล้ว ยังได้ความคุ้มค่าจะกการลดหย่อนภาษีอีกด้วย ใครที่ยังไม่ลองลงทุนต้องรีบแล้ว
ประเภทของ กองทุนรวม
อย่างที่บอกไปข้างต้นว่ากองทุนรวมนั้นมีให้เลือกหลากหลายประเภทการลงทุน และหลากหลายบริษัท สำหรับมือใหม่ที่ยังรู้จะลองทุนกับอะไรนั้น วันนี้เราก็มีประเภทของกองทุนรวมมาฝาก ซึ่งบอกเลยว่ามีมากจริง ๆ
1. กองทุนรวมตราสารแห่งหนี้ (Fixed income fund) เน้นลงทุนเฉพาะในตราสารหนี้ เช่น เงินฝาก พันธบัตร หรือ หุ้นกู้ เน้นความเสี่ยงต่ำ รับรายได้ประจำจากดอกเบี้ย
2. กองทุนรวมคุ้มครองเงินต้น (capital protected fund) เน้นการลงทุนแบบต้นไม่หายแต่กำไรไม่สูงมากนัก ด้วยกลไกการเลือกลงทุนในตราสารทางการเงินที่มีความเสี่ยงต่ำ
3. กองทุนรวมที่ลงทุนในต่างประเทศ (foreign investment fund : FIF) เป็นช่องทางกระจายเงินทุนไปยังต่างประเทศเพื่อเป็นการกระจายความเสี่ยง
4. กองทุนรวมหน่วยลงทุน (fund of funds) เป็นกองทุนรวมที่นำเงินไปลงทุนในกองทุนรวมอื่นอีกทีหนึ่งเพื่อให้ได้ผลตอบแทนตามนโยบายการลงทุนที่กำหนด
5. กองทุนรวมตราสารแห่งทุน (equity fund) เน้นลงทุนในหุ้นไม่น้อยกว่า 65 % เสี่ยงสูงแต่ผลตอบแทนก็ มีโอกาสสูงด้วย
6. กองทุนรวมมีประกัน (guaranteed fund) ลงทุนแบบสบายใจ เพราะมีผู้รับประกันความเสี่ยง (guarantor) ตามเงื่อนไขการลงทุนที่กำหนด
7. กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ (property fund) ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ บ้าน คอนโดมิเนียม อาคารสำนักงาน หรือ ศูนย์การค้า ที่ผู้ลงทุน สามารถเป็นเจ้าของตึกก็ได้ และมีโอกาสได้รับผลตอบแทนจากทรัพย์สินนั้นๆ
8. กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (Retirement Mutual fund : RMF) ลงทุนแบบออมเงินระยะยาวเพื่อการเกษียณอายุพร้อมได้สิทธิประโยชน์ทางภาษี ลดทุกปีที่ซื้อสูงสุดร้อยละ 15 ของรายได้ทั้งปีหรือไม่เกิน 500,000 บาท เน้นลงทุนระยะยาวต่อเนื่องจนอายุ 55 ปี
9. กองทุนรวมผสม (mixed fund) ลงทุนทั้งหุ้นและตราสารหนี้ผสมผสานกัน เน้นความยืดหยุ่นปรับสัดส่วนการลงทุนตามสถานการณ์ เพื่อลดความเสี่ยง
10. กองทุนรวมตลาดเงิน (money market fund) ลงทุนในตราสารการเงินระยะสั้นอายุไม่เกิน 1 ปี เป็นส่วนใหญ่เน้นความเสี่ยงต่ำ แต่มีโอกาสให้ผลตอบแทนสูงกว่าเงินฝาก
11. กองทุนรวมดัชนี (index fund) เน้นการสร้างผลตอบแทนล้อตามการเคลื่อนไหวของดัชนีราคาหลักทรัพย์ ที่กำหนดไว้ในนโยบายการลงทุน เช่น ลงทุนตามดัชนี SET Index หรือ SET50 เป็นต้น
12. กองทุนรวมหุ้นระยะยาว (Long term equity fund : LTF) เน้นการลงทุนในหุ้น ที่แถมสิทธิลดหย่อนภาษีสำหรับเงินที่นำมาลงทุน ได้มากถึงร้อยละ 15 ของรายได้ทั้งปี หรือไม่เกิน 500,000 บาทระยะเวลาลงทุนเพียง 5 ปฏิทิน
13. Exchange Traded Fund (ETF) กองทุนเปิดจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ผู้ลงทุนสามารถส่งคำสั่งซื้อขายหน่วยลงทุน ETF โดยผ่านบริษัทหลักทรัพย์ (Brokers) ได้ เหมือนการซื้อขายหุ้นทั่วไป และยังช่วยลดความเสี่ยง อีกทั้งยังใช้เงินเริ่มต้นในการลงทุนไม่มาก พร้อมกับช่วยสร้างสภาพคล่องของการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ให้มากขึ้น
ในปัจจุบันนั้นมีการลงทุนมากมายให้เราได้เลือกสรร ซึ่ง กองทุนรวม ก็เป็นทางเลือกหนึ่งที่เหมาะกับทุกคน โดยเฉพาะเหล่ามือใหม่ที่อยากลงสนามการลงทุน แต่มีทุนน้อย งบน้อย หรือยังไม่มีความมั่นใจก็สามารถลงทุนในกองทุนรวมได้ เพราะมีคนคอยดูแล และยังสามารถใช้ทุนน้อยได้อีกด้วย ซึ่งมือใหม่ที่อยากจะลงทุนที่กองทุนรวมต้องศึกษา กองทุนรวม คืออะไร บอกข้อดีสำหรับมือใหม่ที่อยากลงทุน ให้ดีเพื่อที่จะได้เลือกกองทุนที่เราสนใจ และสร้างรายได้ให้แบบยั่งยืน
